1
2
 3
รายละเอียดโครงการ

การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ
ต่อการใช้แอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตัวตายในประชาชนไทย

ที่ปรึกษาโครงการ

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อํานวยการโรงพยาบาลสวนปรุง

ผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยร่วม

นางจารุณี รัศมีสุวิวัฒน์ พยาบาลวิชาชีพชํานาญการพิเศษ โรงพยาบาลสวนปรุง

นางสาวชุลีพร ภูโสภา อาจารย์พยาบาล วิทยาลัยพยาบาล บรมราชชนนี พะเยา

นางสาวธรัญญา ดีกัลลา นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ โรงพยาบาลสวนปรุง

นางสาวอรพิมล ต้นยศ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน โรงพยาบาลสวนปรุง

นางสาวอารีรัตน์ บุญรักษา นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลสวนปรุง

ที่มาและความสำคัญ

        ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัส 2019 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกภาคส่วนของ สังคม ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง รูปแบบการดําเนินชีวิตประจําวันในระดับบุคคลไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพ เศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนถึงระบบสุขภาพ ประชาชน ประสบกับปัญหาการว่างงาน ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ มีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย (Ruengorn, Awiphan, Wongpakaran, Wongpakaran, & Nochaiwong, 2021) และหันไปดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น โดยผู้มีภาวะวิตกกังวลดื่มแอลกอฮอล์สูงขึ้น 1.41 เท่า (95% CI = 1.20-1.66) มีภาวะซึมเศร้าดื่มแอลกอฮอล์สูงขึ้น 1.64 เท่า (95% CI = 1.21−2.23) (Capasso et al., 2021) และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยง สําคัญต่อการเกิดความคิดฆ่าตัวตาย (Noruma et al., 2021) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์ในระยะหลังการแพร่ระบาด COVID-19 ได้แก่ 1) เพศหญิง พบดื่มสุราเพิ่มขึ้นสองเท่า 2) มีอายุน้อย 3) มีพฤติกรรมการดื่มสุราอย่างหนักก่อนการระบาด 4) มีประวัติการเจ็บป่วยทางจิต 5) ความเครียด 6) ภาวะซึมเศร้า ?) วิตกกังวล 8) ความรู้สึกเบื่อหน่าย 9) มีวิธีการเผชิญ ปัญหาที่ไม่เหมาะสม และ 10) มีภาวะว่างงาน (Chodkiewicz et al., 2020; Dawn et al., 2020; Grossman et al., 2020; Kouimtsidis et al., 2021; Schmits etal., 2020; Stanton et al., 2020; Zhang et al., 2020)

        การดื่มแอลกอฮอล์ทําให้ผู้ดื่มพร่องด้านการคิด ตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม เมื่อถูกกระตุ้นจาก เหตุการณ์วิกฤติในชีวิต จะใช้วิธีการจัดการปัญหาแบบหลีกหนี หรือหุนหันพลันแล่น และกระทําการที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย เช่น การทําร้ายตนเอง และพยายามฆ่าตัวตาย ดังรายงานการศึกษาที่ระบุว่า ผู้ดื่มเสี่ยงต่อการพยายามฆ่าตัวตายสูงถึง 6.97 เท่า และยิ่งดื่มปริมาณมาก ความเสี่ยงก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น และจากการวิเคราะห์ข้อมูลของสํานักงานประกันสุขภาพแห่งชาติระหว่าง ปีพ.ศ. 2556-2562 พบว่า คนไทยที่ดื่มสุรามีความเสี่ยงต่อการพยายามฆ่าตัวตายสูงถึง 5.2 เท่าของคนที่ไม่ดื่ม (ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา, 2564) การดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นของประชาชนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสมที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางสุขภาพทางลบ คือ การฆ่าตัวตาย ซึ่งพฤติกรรมสุขภาพของบุคคลนี้มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ (health literacy) นั่น หมายถึงหากบุคคลมีความรอบรู้ ด้านสุขภาพดี จะมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม นอกจากนี้ ความรอบรู้ด้านสุขภาพยังสามารถทํานายพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ผลลัพธ์ ทางสุขภาพ และพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพได้ (Flearya, Joseph, & Pappagianopoulos, 2018) จากการทบทวนการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนมี ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตายอยู่ในระดับต่ำ โดยมีความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการฆ่าตัวตาย ไม่ถูกต้องในเรื่องสัญญาณเตือนการฆ่าตัวตาย ความเสี่ยงของการฆ่าตัวตาย ความสัมพันธ์ของการดื่ม แอลกอฮอล์กับการฆ่าตัวตาย (Ludwig et al., 20210liffe et al., 2016) และมีความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการ ใช้สารเสพติดไม่เพียงพอเพิ่มความเสี่ยงต่อการดื่มแบบ เสี่ยงต่ำ (low-risk drinking) 1.55 เท่า (OR=1.55, 95% CI 1.15, 2.08) และการดื่มแบบเสียง (hazardous drinking) 1.75 เท่า (OR=1.75 95% CI:1.19, 2.58) (Yangyuen et al., 2021)

       ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตายของประชาชนยังเป็นประเด็น ที่ต้องได้รับการพัฒนา เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เข้าถึงข้อมูลและใช้ข้อมูล ในการตัดสินใจหลีกเลี่ยงการดื่ม แอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปัจจัยปกป้องต่อการฆ่าตัวตายได้ อย่างไรก็ตาม องค์ความรู้เกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตาย ยังมีจํากัดและการศึกษาทั้งหมด ดําเนินการในบริบทต่างประเทศ โรงพยาบาลสวนปรุง ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่มุ่งพัฒนาบริการวิชาการ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตแอลกอฮอล์ จึงสนใจพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และ การฆ่าตัวตายในประชาชนไทย โดยมีการศึกษา 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และ การฆ่าตัวตายในประชาชนไทยและพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตายในประชาชนไทย และระยะที่ 2 การทดสอบประสิทธิภาพของ โปรแกรมเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตายในประชาชนไทย โดยคาดว่า ผลการวิจัยครั้งนี้ จะช่วยให้มีข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตายในประชาชนไทย และมีรูปแบบโปรแกรมเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อการใช้แอลกอฮอล์และการฆ่าตัวตายในประชาชนไทยที่จะช่วยให้ประชาชนไทย มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ อันจะช่วยเพิ่มพฤติกรรมแสวงหาความช่วยเหลือทางสุขภาพจิต ลดพฤติกรรม การดื่มทั้งแบบเสียงต่ำ ดื่มแบบเสียง ดื่มแบบอันตราย และดื่มแบบติด และเพิ่มปัจจัยปกป้องต่อการฆ่าตัวตายในประชาชนไทยต่อไป